วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Sherlock Holmes


เชอร์ล็อก โฮลมส์ (อังกฤษ: Sherlock Holmes) เป็นนวนิยายสืบสวนหรือรหัสคดี ประพันธ์โดยนักเขียนและนายแพทย์ชาวสก็อต คือ เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตัวละคร เชอร์ล็อก โฮลมส์ เป็นนักสืบชาวลอนดอนผู้ปราดเปรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านทักษะการประมวลเหตุและผล โดยอาศัยหลักฐานและการสังเกตอันคาดไม่ถึงเพื่อคลี่คลายคดีต่างๆ

โคนัน ดอยล์ แต่งเรื่องเชอร์ล็อก โฮลมส์ ไว้ทั้งสิ้นเป็นเรื่องยาว 4 เรื่อง และเรื่องสั้น 54 เรื่อง เกือบทุกเรื่องเป็นการบรรยายโดยเพื่อนคู่หูของโฮลมส์ คือ ดร. จอห์น เอช. วัตสัน หรือ หมอวัตสัน ในจำนวนนี้ มี 2 เรื่องที่โฮลมส์เป็นผู้เล่าเรื่องเอง และอีก 2 เรื่องเล่าโดยบุคคลอื่น เรื่องสั้นสองเรื่องแรกตีพิมพ์ใน Beeton's Christmas Annual ในปี ค.ศ. 1887 และ Lippincott's Monthly Magazine ในปี ค.ศ. 1890 แต่หลังจากที่ชุดเรื่องสั้นลงพิมพ์เป็นคอลัมน์ประจำใน นิตยสารแสตรนด์ เมื่อปี ค.ศ. 1891 นิยายเรื่องนี้ก็โด่งดังเป็นพลุ เหตุการณ์ในนิยายอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1878 ถึง ค.ศ. 1903 และคดีสุดท้ายเกิดในปี ค.ศ. 1914
เมื่อถูกถามว่า เชอร์ล็อก โฮลมส์มีตัวตนจริงหรือไม่ โคนัน ดอยล์ มักตอบว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเชอร์ล็อก โฮลมส์ มาจากนายแพทย์โจเซฟ เบลล์ ผู้ซึ่งดอยล์เคยทำงานด้วยที่โรงพยาบาลเอดินเบิร์กรอยัล นายแพทย์เบลล์มีความสามารถในการหาข้อสรุปจากความสามารถในการสังเกตราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับเชอร์ล็อก โฮลมส์ นอกจากนี้นายแพทย์เบลล์ยังมีความสนใจในอาชญากรรมและเคยช่วยเหลือตำรวจในการคลี่คลายคดีต่างๆ ด้วย
ความโด่งดังของเชอร์ล็อก โฮลมส์ ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงและพากันเขียนจดหมายไปหา มีพิพิธภัณฑ์เชอร์ ล็อก โฮลมส์ ตั้งขึ้นในตำแหน่งที่น่าจะเป็นบ้านในนวนิยายของเขาในกรุงลอนดอน นับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นสำหรับตัวละครในนิยาย เรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮลมส์ มีการนำไปดัดแปลงและแต่งเพิ่มเติมขึ้นใหม่อีกโดยนักเขียนคนอื่น ทั้งที่เขียนร่วมกับทายาทของโคนัน ดอยล์ และเขียนขึ้นใหม่เป็นเอกเทศ บทประพันธ์ของโคนัน ดอยล์ และนวนิยายที่แต่งขึ้นใหม่ ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ ละครวิทยุ และสื่ออื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน จนกระทั่งเชอร์ล็อก โฮลมส์ ได้รับการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊คว่า เป็น "ตัวละครที่มีผู้แสดงมากที่สุด" ภาพลักษณ์ของโฮลมส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักสืบ และส่งอิทธิพลต่อวรรณกรรมและการแสดงในประเภทรหัสคดีจำนวนมาก

ประวัติ

โคนัน ดอยล์ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้าง เชอร์ล็อก โฮลมส์ มาจากนายแพทย์ผู้หนึ่ง คือ นายแพทย์โจเซฟ เบลล์ ระหว่างที่เขาเป็นแพทย์ฝึกงานที่ โรงพยาบาลเอดินเบิร์กรอยัล นายแพทย์อาวุโสสามารถระบุอาการและโรคของคนไข้ได้ทันทีเพียงจากการสังเกตสภาพ ภายนอก หรือสามารถอธิบายเรื่องราวได้มากมายจากข้อสังเกตเพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้โคนัน ดอยล์ ทึ่งมาก นายแพทย์เบลล์ยังเคยช่วยเหลือการสืบสวนคดีของตำรวจบางคดีอีกด้วย[3]

เมื่อโคนัน ดอยล์ เรียนจบและออกไปประกอบอาชีพ เขาเขียนหนังสือเป็นงานอดิเรกเพื่อสร้างรายได้เสริม โดยเขียนเรื่องสั้นส่งให้กับนิตยสาร เนื่องจากการงานอาชีพแพทย์ไม่ค่อยสร้างรายได้ดีนัก เขาใช้เวลาว่างระหว่างรอคนไข้เริ่มเขียนนวนิยาย โดยใช้นายแพทย์เบลล์ อาจารย์ของเขาเองเป็นต้นแบบในการสร้างตัวละครเอก คือ เชอร์ล็อก โฮลมส์ แล้วสร้างตัวละครรองเป็นนายแพทย์ซึ่งเกี่ยวข้องกันกับวิชาชีพของเขา นวนิยายสืบสวนเรื่องแรกที่โคนัน ดอยล์ เขียนคือ แรงพยาบาท (A Study in Scarlet) ได้พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ Beeton's Christmas Annual 1887 ปี ค.ศ. 1887 หลังจากที่ถูกปฏิเสธอยู่หลายครั้งหลายหน หลังจากนั้น โคนัน ดอยล์ จึงทยอยเขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับนักสืบโฮลมส์และเพื่อนนายแพทย์ของเขา ผลตอบรับจากการเขียนนวนิยายนักสืบชุดนี้ดีจนคาดไม่ถึง และโคนัน ดอยล์ ต้องแต่งเรื่องส่งให้สำนักพิมพ์อยู่เรื่อยๆ ไม่สามารถหยุดได้

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


ขอแสดงความเสียใจและขอให้กำลังใจกับชาวฟิลิปปินส์

พิษพายุไห่เยี่ยนถล่มฟิลิปปินส์ ขาดอาหาร-ศพเกลื่อนเมือง



ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก PHILIPPE LOPEZ / AFP, NOEL CELIS / AFP

          พิษซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน กระทบประชาชน 9.7 ล้าน พื้นที่ประสบภัยเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและศพผู้เคราะห์ร้าย ประชาชนเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร-น้ำดื่ม ขณะที่ระบบสุขอนามัยก็ใช้การไม่ได้ หวั่นเกิดโรคระบาด

          เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 สำนักข่าวเอพี รายงานสถานการณ์ในฟิลิปปินส์หลังถูกไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนถล่มอย่างน่าสะเทือนใจ โดยระบุว่า ตอนนี้พื้นที่ประสบภัยเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ศพถูกทิ้งให้บวมเน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วพื้นที่ ประชาชนผู้รอดชีวิตเริ่มขาดแคลนอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค ขณะที่ทั่วโลกก็กำลังพยายามเข้าให้ความช่วยเหลือ

          รายงานระบุว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 9.7 ล้านคน ใน 41 จังหวัดทั่วประเทศ โดยตอนนี้ ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยต้องเอาผ้ามาปิดจมูกตัวเองตลอดเวลา เพราะศพผู้เสียชีวิตที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ตามถนน ซากปรักหักพังของบ้านเรือน สะพาน หรือบริเวณชายฝั่ง ยังคงไม่ได้รับการเก็บกู้ และเริ่มบวมเน่า ส่งกลิ่นเหม็นไปไกล ขณะที่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตบางราย ก็พยายามฝังศพผู้เสียชีวิตด้วยตนเองในช่วงที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทั่วถึง

          และสิ่งที่กลายเป็นปัญหาหลักในตอนนี้ นอกเหนือจากบ้านเรือนที่พังราบเป็นหน้ากลอง และศพผู้เคราะห์ร้ายแล้ว ผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตก็เริ่มที่จะขาดแคลนอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ซึ่งนั่นทำให้เกิดการเข้าปล้นร้านขายของในพื้นที่ประสบภัย ขณะที่ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณท่าเรือเมืองทาโคลบัน ก็ได้พ่นสีเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่บนพื้นว่า "Help. SOS. We need food," ซึ่งภาพของเขาขณะที่กำลังพ่นข้อความดังกล่าว ได้กลายเป็นภาพที่สะเทือนใจคนทั่วโลกในขณะนี้

          จากการลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ประสบภัยของสำนักข่าวบีบีซี หญิงรายหนึ่งได้เปิดเผยกับนักข่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้พวกเธอหิวโหยอาหารและกระหายน้ำมาก และตัวเธอเองก็ต้องนอนข้างถนน เพราะบ้านของเธอนั้นถูกไต้ฝุ่นถล่มพังยับเยิน

          เช่นเดียวกับ อริกา แม การากต ผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตอีกราย ที่ได้เปิดเผยกับนักข่าวบีบีซีว่า ตอนนี้ผู้ประสบภัยต้องการน้ำดื่มและยา เพราะมีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บ บางคนก็ท้องเสีย และบางคนก็เริ่มมีภาวะขาดน้ำแล้ว

          นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงในสถานการณ์เช่นนี้ คือ ในช่วงที่ระบบสุขอนามัยใช้การไม่ได้ และแหล่งน้ำถูกปนเปื้อน อาจทำให้เกิดโรคระบาดในพื้นที่ได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องควบคุมอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับน้อยที่สุด และต้องให้วัคซีนป้องกันโรคกับประชาชนด้วย

          อย่างไรก็ดี ตอนนี้ทางการฟิลิปปินส์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร และจากหน่วยงานอื่น ๆ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยจัดส่งอาหารและน้ำดื่มให้ในเบื้องต้น ขณะที่ทีมเจ้าหน้าที่จากองค์การสหประชาชาติ และหน่วยงานนานาชาติต่าง ๆ ก็เริ่มเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยบ้างแล้วตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และกำลังพยายามเข้าถึงผู้ประสบภัยทุกหนแห่งอย่างสุดความสามารถ

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
PHILIPPE LOPEZ / AFP

ฟิลิปปินส์
NOEL CELIS / AFP

ฟิลิปปินส์
NOEL CELIS / AFP

ฟิลิปปินส์
NOEL CELIS / AFP

ฟิลิปปินส์
TED ALJIBE / AFP

ฟิลิปปินส์
TED ALJIBE / AFP

ฟิลิปปินส์
TED ALJIBE / AFP

ฟิลิปปินส์
Praveen Agrawal / WORLD FOOD PROGRAMME / AFP


TED ALJIBE / AFP

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

tintin

ตินติน (ฝรั่งเศส: Les Aventures de Tintin et Milou; อังกฤษ: The Adventures of Tintin) อ่านว่า แตงแตง ในภาษาฝรั่งเศส ภาษาดัตช์อ่านออกเสียงว่า "ตินติน" ภาคภาษาไทยอ่านว่า ตินติน เป็นการ์ตูนที่มีชื่อเสียงมากเรื่องหนึ่งในโลก กำเนิดเมื่อปี ค.ศ. 1929 จากปลายปากกาของ จอร์จ เรมี (Georges Remi) ชาวเบลเยื่ยม โดยใช้นามปากกาว่าแอร์เช่ (R.G.) ซึ่งนำเอาตัวอักษรแรกของชื่อและนามสกุลมาสลับ ตำแหน่งกันและออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศส (HERGÉ)

เรื่องราวของ ตินติน ได้รับการถ่ายทอดไว้ในหนังสือจำนวน 24 เล่ม มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 50 ภาษา (รวมทั้งภาษาไทยด้วย) และมียอดจำหน่ายกว่า 200 ล้านเล่มทั่วโลก และกำลังจะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน จำนวน 3 ภาค โดย สตีเฟน สปีลเบิร์ก และปีเตอร์ แจ็กสัน


images

ที่มาภาพ tintincomicsfreedownload

"ตัวละคร"ในเรื่องที่คนทั้งโลกจดจำได้แก่...
ตินติน

       ตินติน นักข่าวหนุ่มที่กระหายความเที่ยงตรงและความถูกต้องจนบางครั้งทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกว่าน่าจะเป็นนักสืบมากกว่า และด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องผจญไปกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เสี่ยงต่อชีวิต แต่ด้วยความสามารถที่เขามีและโชคที่เข้าข้างเขาทำให้สามารถรอดชีวิตได้มาอย่างหวุดหวิด
กัปตันแฮดด็อก

       กัปตันแฮดด็อก ปรากฏตัวครั้งแรกในตอน ก้ามปูทอง (THE CRAB WITH THE GOLDEN CRAWS) เป็นกัปตันที่มีความตั้งใจที่จะเลิกเหล้าแต่ก็เลิกไม่ได้สักที สูบไปป์ มีนิสัยขี้หงุดหงิดและปากจัดจนบางครั้งเกือบทำให้สถานการณ์แย่ไปเลย แต่ด้วยนิสัยที่รักเพื่อนต่อให้บุกน้ำลุยไฟที่ไหนถึงจะหวั่นๆ แต่ไม่เคยถอยสักครั้ง
สารวัตรทอมสันและทอมป์สัน
       สารวัตรทอมสันและทอมป์สัน ถือว่าเป็นตัวโจ๊กในการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะความสามารถของฝาแฝดทั้งสองมีไม่ถึงครึ่งของTintinเลย แต่บางครั้งเขาทั้งสองก็สามารถเป็นที่พึ่งให้กับTintinได้ถึงแม้ว่าTintinจะเป็นฝ่ายช่วยพวกเขาเสียมากกว่า พวกเขาเป็นฝาแฝดที่ไม่ยอมรับในความเหมือนกันในหลายๆ อย่าง ถึงอย่างไรก็ตามเขาทั้งสองก็ชอบเถียงกันเองในเรื่องการพูดว่าใครพูดเลียนแบบใครกันแน่
แนสตอร์ 
        แนสตอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกตอน ความลับของเรือยูนิคอร์น (THE SECRET OF THE UNICORN) เดิมเขาเป็นพ่อบ้านให้กับอีกครอบครัวหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าครอบครัวที่เขารับใช้นั้นเป็นอาชญากรด้วยเหตุนี้แนสเตอร์จึงไม่มีความผิดในการสมรู้ร่วมคิด ดังนั้นเมื่อกัปตันแฮดด็อก กลับจากการงมมรดกเขาก็เลยจ้างแนสเตอร์เป็นพ่อบ้าน
 สโนวี่

       สโนวี่ หรือ มีลู เป็นสุนัขเพศผู้ สีขาวล้วน มีนิสัยซื่อสัตย์ กล้าหาญ รักตินตินเป็นที่สุด ตะกละและขี้เมาเพราะสถานการณ์พาไป ไม่ว่าตินตินจะไปที่ไหนมันจะขอตามไปด้วยไม่ให้ห่าง
ศาสตราจาร์ย คูเบิรด์ แคลคูลัส 
       ศาสตราจาร์ย คูเบิรด์ แคลคูลัส เป็นศาสตราจารย์ช่างประดิษฐ์คิดค้น มักจะชอบคิดประดิษฐ์สิ่งของแปลกๆให้ตินตินใช้เช่น เรือดำน้ำรูปปลาฉลาม (ในตอนความลับของยูนิคอร์น) แม้บางที เขาอาจจะมีความคิดเพี้ยน เพ้อฝันหรือเกินความเป็นจริงไปบ้าง แต่เขาก็รักตินตินและกัปตันแฮ็ดด็อกอยู่เสมอ ศาตราจารย์แคลคูลัส ยังมีชื่อเรียกในภาษาฝรั่งเศสอีกว่า ตูร์เนอซอล (ภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ดอกทานตะวัน)